นโยบายการดำเนินการคำสั่งเทรด

เมื่อเปิดบัญชีการเทรดกับโบรกเกอร์ Forex อันดับแรก นักเทรดต้องทำความคุ้นเคยกับขั้นตอนการดำเนินการเทรด เอกสารนี้ จะกำหนดกฎเกณฑ์สำหรับการทำธุรกรรม รวมถึงการระบุเหตุผลทางกฎหมายสำหรับการแก้ไขข้อพิพาทระหว่างลูกค้าและบริษัท

ข้อปฏิบัตินี้จะแสดงให้เห็นว่า มีลูกค้าจำนวนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่จะศึกษาขั้นตอนและข้อตกลงของลูกค้าที่ลูกค้ายอมรับ ในรูปแบบของข้อเสนอสาธารณะ เมื่อได้ทำการลงทะเบียนที่เว็บไซต์ของโบรกเกอร์ เมื่อพิจารณาว่า เอกสารเหล่านี้กำหนดเงื่อนไขทั่วไปสำหรับการดำเนินการเทรด บางครั้งแม้แต่นักเทรดที่มีประสบการณ์ก็ยังเข้าใจได้ยากว่า คำสั่งของตนเอง จะถูกดำเนินการอย่างไรในสถานการณ์ตลาดนี้หรือสถานการณ์อื่น ๆ

ด้วยความตระหนักถึงความจำเป็นในการอธิบายปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งนักเทรดจะต้องพบ บริษัทจึงพัฒนานโยบายการดำเนินการคำสั่งเทรด ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเตือนลูกค้าถึงมุมมองที่ยากที่สุดในการดำเนินการกับบัญชีเทรดที่เปิดกับ ForexChief

การ Slippage ของคำสั่งหยุดต่าง ๆ (เช่น Buy Stop, Sell Stop, Stop Loss)

คำถามที่มือสมัครเล่นถามบ่อยที่สุดมีดังนี้ คือ ทำไมฉันจึงวางคำสั่งหยุดที่ราคาหนึ่ง แต่คำสั่งเทรดถูกดำเนินการที่อีกราคาหนึ่ง คำตอบสำหรับคำถามนี้ มันเป็นธรรมชาติของคำสั่งหยุด ประการแรก คำสั่งหยุด คือ เงื่อนไขซึ่งเมื่อดำเนินการแล้ว จะส่งคำสั่งเทรดไปในตลาด ในทางปฏิบัติ หมายถึง ฉันต้องการเทรดในราคาแรกที่มีอยู่ (เช่น “ราคาตลาด”) หากราคาเฉพาะปรากฏขึ้น ประการที่สอง การกำหนดราคาตลาด หมายถึง การทำธุรกรรมเมื่อได้รับความยินยอมจากทั้งสองฝ่ายเท่านั้น กล่าวคือ ผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งหมายความว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะดำเนินการคำสั่งหยุดตามราคาที่ลูกค้ากำหนด หากไม่มีราคาดังกล่าวในตลาด (เช่น ไม่มีใครเต็มใจที่จะซื้อหรือขายในราคานี้) ด้วยวิธีนี้ ในกรณีที่มีช่องว่าง (ช่องว่างราคา) คำสั่งหยุดสามารถดำเนินการตาม "ราคาช่องว่าง" เท่านั้น เช่น ที่ราคาแรกที่มีช่องว่าง ดังนั้น เมื่อออกคำสั่งหยุดในบัญชีเทรดแล้ว นักเทรดจะต้องตระหนักถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการ Slippage เชิงลบ เมื่อดำเนินการออกคำสั่งหยุดของตนเอง

Slippage เชิงบวกในคำสั่งจำกัด (เช่น Buy Limit, Sell Limit, Take Profit)

สำหรับคำสั่งจำกัด จะใช้หลักการตรงกันข้าม คำสั่งจำกัดสามารถดำเนินการได้ในราคาที่นักเทรดกำหนด หรือราคาที่ดีที่สุดที่มี ซึ่งหมายความว่า ในกรณีที่ได้รับคำสั่งจำกัดในช่องว่างราคา โบรกเกอร์จะดำเนินการคำสั่งที่ "ราคาช่องว่าง" (เช่น ที่ราคาแรกที่มีอยู่) ซึ่งจะทำให้นักเทรดมีรายได้เพิ่มเติมในรูปแบบของการคลาดเคลื่อนที่เป็นเชิงบวก

ความเร็วของการดำเนินการตามคำสั่งระหว่างการเผยแพร่ข่าวเศรษฐกิจ

โดยเฉลี่ยแล้ว ความเร็วในการดำเนินการตามคำสั่งของนักเทรด ตั้งแต่ช่วงเวลาที่คำสั่งมาถึงเซิร์ฟเวอร์การเทรด จนถึงช่วงเวลาที่ส่งการยืนยันไปยังนักเทรด คือ 100 มิลลิวินาที อย่างไรก็ตาม ด้วยธรรมชาติของธุรกรรมนอกเหนือการแลกเปลี่ยน ธนาคารที่ขายสภาพคล่องแล้ว จึงมีเงื่อนไขที่เรียกว่า "ดูครั้งสุดท้าย" ซึ่งให้สิทธิ์แก่นักเทรดในการ "ระงับคำสั่งในการประมวลผลจนกว่าสภาวะตลาดจะได้รับความชัดเจน" นั่นหมายความว่า นักเทรดที่ส่งคำสั่งเพื่อเปิดตำแหน่งในขณะที่มีการเผยแพร่ข่าวอาจพบกับความเร็วในการดำเนินการคำสั่งต่ำ (ความเร็วอาจต่ำถึง 3 วินาทีก็เป็นได้) นั่นไม่ได้หมายความว่า คำสั่งที่เหมือนกันทั้งหมดจะถูกดำเนินการด้วยความล่าช้า อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ดังเช่นนั้น และบริษัทสนับสนุนให้นักเทรดวางแผนสำหรับความเสี่ยงดังกล่าวในระบบการเทรดของตน

บังคับปิดคำสั่งเทรด เนื่องจากค่าสเปรดมีการขยายกว้างขึ้น

แม้ว่านักเทรดอาจมี «คำสั่งเทรดที่มีการป้องกันความเสี่ยงอยู่» เช่น คำสั่งซื้อตรงกับคำสั่งขาย คำสั่ง Stop-out (การบังคับปิดคำสั่งเทรด เนื่องจากบัญชีมีเงินทุนไม่เพียงพอ) ยังคงสามารถเกิดขึ้นได้ในบัญชี ตามกฎเกณฑ์แล้ว กรณีนี้เป็นผลมาจากค่าสเปรดที่กว้างมากขึ้น ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยอย่างมาก จะเกิดขึ้นในขณะที่มีการเผยแพร่ข่าวเศรษฐกิจ ซึ่งหมายความว่า โดยปกติแล้วผู้ซื้อขาย จะมีโอกาสทำธุรกรรมในกรณีที่ค่าสเปรดต่ำมาก อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกัน ค่าสเปรดที่กว้างขึ้นอย่างไม่สามารถจะคาดเดาได้ เมื่อไม่สามารถระบุกำหนดล่วงหน้าได้

เครดิตการเทรด

เครดิตการเทรด คือ ค่าเลเวอเรจเครดิตเพิ่มเติมที่ช่วยให้นักเทรดสามารถออกคำสั่งเทรดเพิ่มได้ และผลที่ตามมา คือ ผลกำไรที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม เราต้องไม่ลืมว่า เมื่อขนาดของคำสั่งเทรดเพิ่มขึ้นพร้อมด้วยเงินทุนที่เพิ่มเติมตามมา ความสูญเสียทางการเงินที่อาจจะเกิดขึ้นก็รอนักเทรดด้วยเช่นกัน กรณีที่การเปลี่ยนแปลงราคาไม่สำเร็จจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน

หากบัญชีท่านเครดิตการเทรดที่ยังเปิดใช้งานอยู่ การบังคับปิดคำสั่งเทรดอาจเกิดขึ้นได้ในสองกรณีเท่านั้น นั่นคือ หากระดับมาร์จิ้นถึง 30% หรือจำนวนเงินในบัญชีต่ำกว่าจำนวนเครดิตที่ใช้งานอยู่ นักเทรดจะต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในกรณีที่มีการใช้เครดิตการเทรด